Blog ฟรี ยอดนิยม สำหรับทำการตลาดออนไลน์

      นักเขียนบล็อกหลายๆคนคงเคยผ่านประสบการณ์ ในการเขียนบทความ หรือเขียนบล็อกมาไม่มากก็น้อย  แต่ก็มีนักเขียนบางคนที่อาจจะไม่รู้หรือเป็นมือใหม่ต่อการเขียนบล็อก เรามี Blog ฟรี ยอดนิยม ไว้เขียนบทความมาให้เพื่อนๆไปลองเล่นได้




         ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำ Blog ฟรี ยอดนิยม บล็อกฟรีนั้นถึงแม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้างก็จริง แต่ถ้าเราใช้งานให้ถูกวัตถุประสงค์ก็สามารถที่จะใช้งานได้เทียบเท่าบล็อกเสียตังค์เลยทีเดียว และนี่เป็นบล็อกต่างๆทั้ง 9  รวมถึงลักษณะการใช้งานให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ต่างๆ


1. Maggang 


Blog ฟรี ยอดนิยม


        เป็นตัวหนึ่งที่ประทับใจเลยทีเดียว ในแง่ของหน้าตารูปลักษณ์ที่มีความโดดเด่นไม่น้อย  การใช้งานก็ง่าย แค่สมัครด้วย email หลังจากยืนยันตัวตนแล้วท่านก็จะได้เป็นเจ้าของบัญชีที่สามารถเปิดบล็อกเพื่อเขียนเนื้อหาได้ทันที

จุดเด่น 👉 เป็นบล็อกที่มีความเป็น variety คือสามารถนำเสนองานได้ในทุกๆแนวไม่จำกัด  ส่วนข้อดีอีกข้อก็คือมีช่องทางการหารายได้ที่ชัดเจน ทั้งส่วนที่แบ่งให้กับ Maggang กับส่วนของนักเขียน  

จุดด้อย 👉  นั้นก็อาจจะเป็นในส่วนของการตกแต่งบล็อกซึ่งยังไม่มีฟังก์ชั่นให้เลือกมากเท่าไร 

💥 เหมาะสำหรับ  นักเขียนบล็อกที่ไม่ชอบการตั้งค่าอะไรที่วุ่นวาย โดยในส่วนของ Maggang ก็จะ มีการทำ SEO ให้อัตโนมัติ อยู่แล้ว



2. WordPress 

Blog ฟรี ยอดนิยม



             เป็น blog ฟรีที่นิยมใช้กันมาก   ลักษณะหน้าตานั้นสวยงามสะอาดตา ส่วนการตั้งค่าปรับแต่งนั้นค่อนข้างยาก หากเป็นผู้ที่ไม่คุ้นเคยอาจถึงขั้นหงุดหงิดได้เลยที่เดียว
จุดเด่น👉 สามารถจดโดเมนของตัวเองได้หรือยิ่งกว่านั้นถ้าอยากได้เว็บมืออาชีพแบบที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถเช่าโฮสและใช้บริการ WordPress.org ที่มีปลั๊กอินฟรีให้เลือกมหาศาล และ WordPress นั้นเป็นบล็อกแบบ CMS จึง สามารถทำอันดับใน google ได้เป็นอย่างดี
จุดด้อย 👉 ก็คือการตั้งค่าต่างๆค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร  

💥 เหมาะสำหรับ ผู้ที่เขียนบล็อกมาระยะหนึ่ง เข้าใจองค์ประกอบการตั้งค่าต่างๆพอสมควร แต่ไม่เหมาะกับบล็อกเกอร์มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น



3. Medium 
Blog ฟรี ยอดนิยม

              เป็น app เขียนบล็อกจากต่างประเทศที่มีคนนิยมใช้กันทั่วโลก Medium เป็น app ที่ดูเป็นมืออาชีพ สามารถเขียนและแชร์เรื่องราวได้ในรูปแบบบทความ หรือเป็นซีรี่ย์  Medium นั้นเปิดให้ใช้บริการทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าสมาชิกรายเดือนประมาณ 170 กว่าบาท  

จุดเด่น  👉 สวยงาม ใช้งานง่าย เป็นชุมชนที่ใหญ่ มีข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์มากมาย

จุดด้อย 👉 ต้อง เสียค่าสมาชิกเพื่อเขาถึงฟีเจอร์ บางอย่างเช่น การอ่านบทความแบบไม่จำกัด หรือการได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ๆก่อน

💥 เหมาะสำหรับ เหมาะกับใครก็ได้ที่อยากบล็อก ถ้าไม่ติดใจที่ต้องเสียค่าสมาชิกเล็กน้อย เพื่อความเป็นมืออาชีพ



4. Blogger 
Blog ฟรี ยอดนิยม


           บล็อกเกอร์เป็น blog ฟรีที่นิยม ที่มี google เป็นเจ้าของ  เป็นแพล็ตฟอร์มแรกๆที่เกิดขึ้นมาไล่เลี่ยกับ WordPress และก็ต่อสู้กันมาตลอดว่าใครดีใครอยู่เลยทีเดียว  blogger 


จุดเด่น 👉 มีธีมสวยๆให้เลือกมากมาย  การตั้งค่านั้นก็ค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว  และการใช้งานก็ง่ายดายไม่ซับซ้อน

จุดด้อย 👉 Feature ที่ไม่ได้มีให้เลือกมากมายนัก ปรับแต่งไม่ไดดังใจเท่าไหร่หากต้องการสร้างบล็อกแบบเต็มรูปแบบโดยเฉพาะแบบ ecommerce

💥 เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน diary ออนไลน์หรือทดลองโครงการอะไรบางอย่าง แต่ไม่เหมาะกับมืออาชีพที่ต้องการปรับแต่งโครงสร้างได้อย่างเต็มที่



5. Blockdit 
Blog ฟรี ยอดนิยม


              เป็นอีกแพล็ตฟอร์มหนึ่งของคนไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว  มีอินเตอร์เฟซที่สวยงามน่าใช้ มีเอกลักษณ์แปลกตาไม่เหมือนใคร

จุดเด่น 👉 สามารถหารายได้จากบล็อกที่มีผู้ติดตามถึง 1,000 คนขึ้นไป อีกอย่างคือข้อความแต่ละบรรทัดมีลักษณะเป็นบล็อกคล้ายคนกำลังสนทนากัน ซึ่งดูแปลกตาน่าสนใจมาก

จุดด้อย 👉เนื่องจากเป็นแพล็ตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาทำงานบน app มือถือ ดังนั้นหากเปิดบนเบราเซอร์ก็จะไม่ได้ฟีเจอร์ที่ครบถ้วน

💥 เหมาะสำหรับ  ผู้เริ่มต้นหรือกระทั่งบล็อกเกอร์มืออาชีพ เพราะมีผู้ติดตามเป็นตัวคอยวัดคุณภาพของเนื้อหา ที่จะนำมาซึ่งการสร้างรายได้หรือไม่



6. Wix 





             เป็นแพล็ตฟอร์มระดับโลกที่โด่งดังมาหลายปีแล้ว มี Package ฟรีและจ่ายเงินเพื่อลูกเล่นที่เพิ่มมากขึ้น  wix เป็นแพล็ตฟอร์มที่สามารถจัดการได้ง่าย สำหรับผู้ที่ชอบเว็บที่ดูดี สวยงาม สะอาดตา โดยสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้อย่างสะดวก ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรซับซ้อนมากนัก

จุดเด่น 👉  Wix ที่เห็นชัดๆก็คือความสวยงาม ดูดี โดยมี theme สำเร็จรูปสำหรับสร้างเว็บไซท์ในกมวดหมู่ต่างๆอย่างครอบคลุม  Wix ยังสามารถจด Domain ของตัวเองได้ด้วย หรือถ้าอัพเกรดเป็น premium ก็จะมีพื้นที่จัดเก็บหรือ Theme ที่เพิ่มมากขึ้น

จุดด้อย 👉 การปรับแต่งสะดวกสบายก็จริง แต่ก็อยู่ในขอบเขตของการใช้งานระดับปกติ ยังไม่ใช่ระดับสูง

💥 เหมาะสำหรับ บล็อกที่เน้นความสวยงาม ความลื่นไหลในการเปิดหน้าเพจประเภท ร้านค้า ecommerce, บล็อกแนว fashion  หรือถ้าอยากทำแบบมืออาชีพก็สมัครแพลน Premium ที่มีราคาต่อเดือนเพียง 400 บาท


7. Tumblr 


Blog ฟรี ยอดนิยม



                     Tumblr อ่านว่า ทัมเบล่อร์ มีลักษณะเป็น ‘micro blog’  ที่คล้าย twitter ผสมกับ wordpress โดยแพล็ตฟอร์มนี้นั้นสามารถรีบล็อกได้  อีกทั้งยังสามารถโพสต์ภาพเคลื่อนไหวหรือวีดีโอได้เป็นอย่างดี 

จุดเด่น 👉 มีเครื่องมือที่ใช้ง่าย ดูไม่รกรุงรัง  และด้วยความที่เป็นไมโครบล็อก content ต่างๆจึงดูกะทัดรัด มีเอกลักษณ์น่าติดตาม

จุดด้อย 👉 เนื่องจากเป็นลักษณะ micro blog สำหรับผู้ที่ชอบธีมแบบอลังการก็อาจจะไม่ถูกใจนัก 

💥 เหมาะสำหรับ  บทความที่มีภาพประกอบที่สะดุดตาหรือภาพเคลื่อนไหวแบบ Gif ที่จะช่วยให้บทความของเราดูน่าสนใจขึ้น


8. Facebook 


Blog ฟรี ยอดนิยม



                  สำหรับการเขียนเนื้อหาลงใน Facebook ก็เป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับคนส่วนมากอยู่แล้ว Facebook สามารถทำการตลาด ได้มากมาย เพราะเป็นเพจที่รวมกลุ่มคนไว้หลากหลาย ซึ่งการใช้ Facebook สำหรับสร้างสรรค์เนื้อหานั้นมีข้อเด่นข้อด้อยอย่างไร 

จุดเด่น 👉 ที่เห็นชัดๆเลยอย่างแรกก็คือ ความง่ายในการใช้งาน Facebook นั้นสามารถใช้ได้ดีทั้งบน app และ บน browser มีความสะดวกในการแชร์ เนื่องจาก Facebook ได้รับความนิยมทั้งโลก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่จะหาปุ่มแชร์ได้จากทุกหนทุกแห่ง

จุดด้อย 👉 เฟซบุ๊กมีคนใช้เป็นร้อยล้านดังนั้นบางครั้งจึงเกิดอาการ Lag หรือ ล่มบ่อยๆ  อีกประการก็คือความสามารถในการเข้าถึงเนื้อหาของผู้ติดตามได้ถูกปรับลดลงเหลือไม่ถึง 1% เพื่อเหลือที่ไว้ให้กับผู้เสียเงินลงโฆษณา

💥 เหมาะสำหรับ การเขียน บทความแบบแค็ปชั่น หรือแชร์บทความมาจากที่อื่น จะมีประสิทธิภาพมาก ที่สุดก็ต่อเมื่อเสียเงินบูสท์โพสต์เป็นครั้งคราว


9. Storylog 


Blog ฟรี ยอดนิยม



             ลักษณะของบล็อก Storylog เปรียบเทียบก็เหมือน Diary Online เพราะชื่อบล็อกก็บ่งบอกอยู่แล้ว เป็นอีกแพล็ตฟอร์มหนึ่งที่มีหน้าตาสีสันสุภาพ  มีการใช้งานที่น่าสนใจ

จุดเด่น 👉Storylog มีความเรียบง่ายน่าใช้เหมาะสำหรับเขียนบรรยายความรู้สึก หรือประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน ข้อเด่นอีกอย่างก็คือเป็นแพล็ตฟอร์มของคนไทยที่มีผู้ใช้งานหลายหมื่นคน

จุดด้อย 👉ไม่มีฟีเจอร์สำหรับผู้ที่ต้องการเขียนเพื่อสร้างรายได้  และสีสันจะดูจืดไปสักหน่อย

💥 เหมาะสำหรับ  ผู้ที่ไม่อยากวุ่นวายกับการสร้างบล็อกอย่าง Blogger หรือ WordPress  หรือ ผู้ที่อยากเขียนเล่าประสบการณ์แบบง่ายๆ ไม่เหมาะสำหรับ blogger ที่ต้องการสร้างรายได้อย่างจริงจัง


         การสร้างบล็อก หรือเริ่มเขียนบล็อกจากแพล็ตฟอร์มไหนก็ตามที  สิ่งสำคัญคือเป้าหมายที่แน่ชัดซึ่งจะช่วยในเรื่องการนำเสนอเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมต่อเนื่อง  อีกอย่างการสร้างบล็อกนั้นไม่ควรหวังผลเร็วเกินไป อย่างต่ำก็ให้มีระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี และก็ต้องมีบทความดีๆคอยอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ หวังว่า Blog ฟรี ยอดนิยม ที่เอามาแนะนำจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆนะคะ



=========================================================================



=========================================================================

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม